10 เคล็ดลับการดูแลรักษาผ้าม่าน

ผ้าม่านเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน แต่ก็เป็นสิ่งที่เปื้อนฝุ่นละอองและคราบสกปรกได้ง่าย การดูแลรักษาผ้าม่านอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผ้าม่านของคุณดูใหม่ อยู่ทนนาน และใช้งานได้ยาวนาน kaceebest จึงขอนำเคล็ดลับการดูแลรักษาผ้าม่านมาฝากกันครับ เพื่อให้ผ้าม่านของเรานั้นสะอาดเหมือนใหม่ และช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าม่านไปด้วยครับ

1.ดูดฝุ่นผ้าม่านเป็นประจำ

การดูดฝุ่นผ้าม่านเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง จะช่วยกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผ้าม่าน ควรดูดฝุ่นทั้งด้านหน้าและด้านหลังของผ้าม่าน เน้นบริเวณรอยพับและชายผ้าม่านที่ฝุ่นละอองชอบเกาะอยุ่

2.ทำความสะอาดคราบสกปรก

หากผ้าม่านมีคราบสกปรก ให้ทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด ใช้ไม้ปัดขนไก่ หากเป็นคราบสกปรกที่ติดอยู่นานๆ จะทำความสะอาดยากขึ้น วิธีทำความสะอาดผ้าม่านง่ายๆนั่นมีหลายวิธี
- ทำความสะอาดผ้าม่านด้วยการดูดฝุ่น ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงนุ่มๆ ดูดฝุ่นบนผ้าม่าน เริ่มจากด้านบนลงล่าง เน้นดูดตามรอยจีบของผ้าม่าน
- ทำความสะอาดผ้าม่านด้วยด้วยไอน้ำ ใช้เครื่องพ่นไอน้ำพ่นผ้าม่าน แรงดันไอน้ำจะช่วยขจัดฝุ่น คราบสกปรก และฆ่าเชื้อโรคบนผ้าม่าน
- เช็ดทำความสะอาด ผสมน้ำสบู่อ่อนๆ ในน้ำอุ่น ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดพอหมาดๆ เช็ดคราบสกปรกบนผ้าม่าน

3.ซักผ้าม่าน

ควรซักผ้าม่านอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นถ้าผ้าม่านอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นมากหรือในบริเวณที่มีความชื้นสูง การซักผ้าม่านจะช่วยขจัดคราบสกปรก ฝุ่นละออง และไรฝุ่น วิธีซักผ้าม่าน ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าม่านนั่นๆด้วย หากสนใจ วิธีซักผ้าม่านด้วยตัวเอง

4.รีดผ้าม่าน

การรีดผ้าม่านจะช่วยให้ผ้าม่านเรียบตึง ดูสวยงาม รีดผ้าม่านด้วยความร้อนที่เหมาะสมกับชนิดของผ้า ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าม่าน ดังนี้

ผ้าม่านเนื้อบาง

- เตรียมอุปกรณ์ ผ้ารองรีด เตารีด น้ำเปล่า กระบอกฉีดน้ำ
- ปรับอุณหภูมิเตารีด ตั้งอุณหภูมิเตารีดให้เหมาะสมกับชนิดของผ้าม่าน โดยทั่วไปควรตั้งอุณหภูมิต่ำ
- รีดผ้าม่าน วางผ้าม่านบนผ้ารองรีด ฉีดน้ำบนผ้าม่านเบาๆ รีดผ้าม่านทีละส่วน รีดจากด้านบนลงล่าง รีดให้เรียบตึง
- รีดจีบ สำหรับผ้าม่านที่มีจีบ ควรใช้เตารีดไอน้ำรีดจีบ จะช่วยให้จีบคมชัด

ผ้าม่านเนื้อหนา

- เตรียมอุปกรณ์ ผ้ารองรีด เตารีด น้ำเปล่า กระบอกฉีดน้ำ ผ้าชุบน้ำหมาดๆ
- ปรับอุณหภูมิเตารีด ตั้งอุณหภูมิเตารีดให้เหมาะสมกับชนิดของผ้าม่าน โดยทั่วไปควรตั้งอุณหภูมิปานกลาง
- รีดผ้าม่าน วางผ้าม่านบนผ้ารองรีด ฉีดน้ำบนผ้าม่านเบาๆ รีดผ้าม่านทีละส่วน รีดจากด้านบนลงล่าง รีดให้เรียบตึง
- รีดจีบ สำหรับผ้าม่านที่มีจีบ ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ วางทับบนจีบ รีดด้วยเตารีด จะช่วยให้จีบคมชัด

5.หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

แสงแดดโดยตรงจะทำให้ผ้าม่านซีดจางลง ควรติดตั้งผ้าม่าน เช่น ม่านโปร่งเพื่อป้องกันผ้าม่านจากแสงแดดจัดที่อาจจะทำให้สี
ของผ้าม่านซีดจางได้เมื่อนานวันเข้า

6.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าม่านที่เหมาะสม

ตามชนิดของผ้าม่าน ดังนี้

ผ้าม่านผ้าฝ้าย:

- น้ำยาซักผ้าทั่วไป เหมาะสำหรับผ้าม่านผ้าฝ้ายที่ไม่มีสีหรือลาย ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม
แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า
- น้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าสี เหมาะสำหรับผ้าม่านผ้าฝ้ายที่มีสีหรือลาย ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม
แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า
- น้ำส้มสายชู ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า
น้ำส้มสายชูช่วยขจัดคราบสกปรกและกลิ่นอับชื้น

ผ้าม่านผ้าลินิน

- น้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าลินิน ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า
- น้ำยาล้างจาน ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 ถูคราบสกปรกบนผ้าม่าน แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
- เบกกิ้งโซดา ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าจนเป็นครีม ทาครีมบนคราบสกปรก ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า

ผ้าม่านผ้าไหม

- น้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าไหม ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วซักด้วยมือ
- น้ำส้มสายชู ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า น้ำส้มสายชูช่วยรักษาสี
และความเงางามของผ้าไหม
- แชมพูสำหรับเด็ก ผสมแชมพูสำหรับเด็กกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า

ผ้าม่านผ้าโพลีเอสเตอร์

- น้ำยาซักผ้าทั่วไป ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า
- น้ำส้มสายชู ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แช่ผ้าม่านไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า น้ำส้มสายชูช่วยขจัด
คราบสกปรกและกลิ่นอับชื้น
- เบกกิ้งโซดา ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าจนเป็นครีม ทาครีมบนคราบสกปรก ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า

7.เปลี่ยนผ้าม่านใหม่เมื่อจำเป็น

หากผ้าม่านของคุณเก่ามาก ระบบรางอาจจะมีปัญหา สีซีด หรือชำรุดไปมากแล้ว ควรเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ เพื่อการใช้งานที่ดี หรือถือเป็นการ
เปลี่ยนบรรยากาศของบ้านให้ดูสดใส สวยงาม ทันสมัย และมีสไตล์มากขึ้นอีกด้วย

8.ระวังความชื้น

ความชื้นจะทำให้เกิดเชื้อราบนผ้าม่าน ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงการตากผ้าม่านในที่อับชื้น

9.ป้องกันผ้าม่านจากสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกที่น่ารักของครอบครัว แต่บางครั้งพวกมันก็อาจสร้างความเสียหายให้กับข้าวของในบ้าน โดยเฉพาะผ้าม่าน
ซึ่งผ้าม่านเป็นเป้าหมายที่สัตว์เลี้ยง จ้องจะเล่นหรือปีนป่ายผ้าม่าน ซึ่งอาจจะทำให้ผ้าม่านเลอะหรือฉีกขาดได้ ควรฝึกสัตว์เลี้ยง
ของคุณไม่ให้ปีนป่ายหรือหรือจำกัดพื้นที่ของน้องไว้

10.ตรวจสอบผ้าม่านเป็นประจำ

ตรวจสอบผ้าม่านเป็นประจำเพื่อดูว่ามีรอยฉีกขาด ตะขอหลุด หรือหาย หากพบความเสียหาย ให้ซ่อมแซมก่อนที่จะมีความเสียหายกับผ้าม่านมากกว่านี้
หรือเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ หากไม่คุ้มที่จะซ้อมแซมแล้ว

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• การใช้เบกกิ้งโซดาโรยบนผ้าม่านก่อนการดูดฝุ่น จะช่วยดูดซับกลิ่นและคราบสกปรก
• การใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดผ้าม่าน จะช่วยขจัดคราบสกปรกและคราบน้ำมัน
• การตากผ้าม่านในที่ร่ม มีลมผ่าน ห้ามตากแดดจัด อาจะทำให้สีของผ้าม่านซีดจางลงได้